เจริญ สิริวัฒนภักดี
เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับ
194 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทย
(อันดับ 2 นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง และอันดับ 3 นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์) จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ นายเจริญสร้างธุรกิจเบียร์ช้างได้ด้วยตนเอง
โดยบิดาเป็นพ่อค้าขายหอยทอดในกรุงเทพมหานคร แต่ในปัจจุบันได้เป็นเศรษฐีของเมืองไทยในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีธุรกิจแตกแขนงไปมากมาย
อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า สนามกอล์ฟเลควิว โดยในปี พ.ศ. 2548 ได้มีโครงการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ
และเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของกิจการ
โรงแรม พลาซ่า แอททินี่
ในกรุงเทพมหานคร และในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
จบการศึกษาจากโรงเรียนเผยอิง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สมรสแล้วกับ
คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
มีบุตร 5 คน เป็นชาย 2 คน
หญิง 3 คนชื่อ อาทินันท์
วัลลภา ฐาปน ฐาปนี และ
ปณต (ข้อมูล พ.ศ. 2548)
ช่วงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสุรา
เจ้าสัวเข้าสู่วงการธุรกิจสุราด้วยการชวนของเถลิง เหล่าจินดา แห่งกลุ่มสุราทิพย์ ผู้ซึ่งต่อมาเป็นปรปักษ์กับตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มายาว
นาน ในปี 2525 เมื่อเถลิงผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชน
ก็เหนื่อยล้าลาจากวงการไป
เจริญก็เข้าสวมแทนและสามารถเอาชนะกลุ่มเตชะไพบูลย์
โดยเข้ายึดครองกลุ่มสุรามหาราษฎร
อย่างสิ้นเชิงในปี 2530
ในขณะเดียวกันนั้น พ่อตาของคุณเจริญ
ก็เข้ายึดกิจการบริษัทเงินหลักทรัพย์จากตระกูลเตชะไพบูลย์อีกสายหนึ่ง
ต่อมาเมื่อเตชะไพบูลย์สายนั้น
(คำรณ เตชะไพบูลย์) มีปัญหาในการบริหารธนาคารมหานคร เจริญและพ่อตา ซึ่ง
มีสองขาทางธุรกิจที่หนุนเนื่องกัน
(ธุรกิจสุราและการเงิน)
และกำลังเริ่มยิ่งใหญ่ในปี
2530 ก็เข้ายึดครองกิจการ
การเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไว้
ทั้งๆ ที่ธุรกิจการธนาคารสำหรับ
สังคมไทย ถูกปิดตายสำหรับคนนอกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
จากจุดนี้จึงถือว่า
เจริญ สิริวัฒนภักดี
สร้างอาณาจักรที่มั่นคงและโหมโรงการขยายตัวอย่างเชี่ยวกรากในเวลาจากนั้นมาขยายสู่ธุรกิจเบียร์
ก่อนที่จะมาเป็นคนรวยที่สุดของประเทศไทย
ท่านมีความยากจนมากแต่ท่านชอบอาชีพนักขายเป็นอย่างยิ่ง
จึงได้ต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน
ธุรกิจสุราดั้งเดิม
แม้ว่าระบบสัมปทานแบบเดิมกำลังจะปิดฉากลง
แต่เขาก็สามารถใช้เครือข่ายการค้าแบบเดิม
ซึ่งฝังรากในตลาดล่างกับเครือข่ายการค้า
ในชุมชนซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายการค้าที่เข้มแข็งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในสังคมไทย
ภายใต้ระบบเอเย่นต์
และระบบขายพ่วง (สุราพ่วงเบียร์
สุราพ่วงโซดา) ที่เข้มแข็งนั้นเดินหน้าธุรกิจต่อไปจากนั้นก็ต่อเนื่องเข้าสู่ธุรกิจเบียร์
(เบียร์ช้าง และเบียร์คาร์ลสเบอร์ก)
ซึ่ง เสริมกับค้าสุราได้อย่างกลมกลืน
ภายใต้โครงสร้างการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจนี้
นำเอาโมเดลการค้าสุรามาทำให้ความสามารถในการแข่งขันอยู่ได้
ซึ่งถือว่าเบียร์ช้าง
เป็นคู่แข่งทางการตลาดของเบียร์สิงห์โดยตรง
ตำแหน่งทางธุรกิจในปัจจุบัน
ลำดับเศรษฐีของนายเจริญ
- เศรษฐีของโลกอันดับ
194 ในปี พ.ศ. 2548
- เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ
1 ในปี พ.ศ. 2548
- ประธานบริษัท มิลเลียไลฟ์
อินชัวรัส์ จำกัด มหาชน