PROMPAYAKORN

Cool Story
Home
TAROT STUDY
Tarot history
Reader history
Tarot shop
Cool Story
Tarot news
Soul
Tarot link
Contact

เรื่องราวของชีวิต กำลังใจจากชีวิต

กำลังใจจากคนดัง
เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ (เรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จมากที่สุด)
วิลเลี่ยม เฮนรี่.เกตส์ (บิล)
อายุ 43
สัญชาติ อเมริกัน
สถานะ แต่งงาน ลูก 2
สถานศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
มีเงิน 9หมื่นล้านดอลล่าร์
อาชีพ บริษัทไมโครซอฟท์
บิลเกตส์เติบโตกับพี่น้องผู้หญิงของเขา2คนในซีแอตเติล. พ่อของพวกเขาวิลเลียม บิลเกตส์คือทนายความซีแอตเติล. แม่สายของพวกเขาคือครูที่สอนในโรงเรียนของระหว่างประเทศแนวทางรวมกันผู้สำเร็จราชการมหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตันและประธานสตรี. ประตูรั้วเข้าร่วมโรงเรียนประถมศึกษาสาธารณะและโรงเรียนริมทะเลสาบส่วนตัว. ที่นั่นเขาพบความสนใจของเขาไปซอฟต์แวร์และเริ่มต้นทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุค13.
ใน1973บิลเกตส์ เข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในขณะที่อยู่ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บิลเกตส์พัฒนาฉบับของภาษาชุดคำสั่งเพื่อเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์แรก-อัลไทร์MITS BASIC
เกตส์ กับเพื่อนชื่อพอล อัลเลน ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนโปรแกรม เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ประกอบเอง และตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนเราทุกคนมีคอมพิวเตอร์ราคาถูกใช้กัน บิล เกตส์ ในตอนนั้นยังเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย แต่พอเกิดความคิดนั้นขึ้นมาก็เลิกเรียนเพื่อออกมาสานฝัน โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัท ไมโครซอฟ กับพอล อัลเลน เมื่อปี ค.ศ. 1975 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระดับโลกการสร้างกิจการจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
ขนาดไมโครซอฟย่อมมีศัตรูเป็นธรรมดา และ บิล เกตส์ มีศัตรูเยอะโดยเฉพาะคู่แข่งที่ถูกโค่นไป แต่สิ่งใหม่ที่เขาเจอเมื่อปี 1998 คือถูกรังเกียจ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯยื่นฟ้องบริษัทไมโครซอฟ ในข้อหาพยายามผูกขาดตลาดด้านซอฟแวร์ บิล เกตส์ จึงเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยเลิกทำงานบริหารบริษัท แล้วหันไปทำงานบริหารกองทุนการกุศลขนาดมหึมาที่ตั้งขึ้นมาพร้อมกับภรรยา
บทเรียนอีกอย่างหนึ่งจากบิล เกตส์ สำหรับนักบริหารคนอื่นคือ อย่าลืมว่าโลกภายนอกบริษัท หรือที่ทำงานก็ยังมี ถ้ามัวแต่วุ่นอยู่กับปัญหาธุรกิจของตัวเอง ก็อาจจะลืมคนทั่วไปที่จะให้การสนับสนุนเราได้
บิล เกตส์ มีหลัก 6 ประการในการทำงาน หนึ่งจับตลาดที่มีช่องทางเยอะแต่มีคู่แข่งน้อย สองเข้าไปให้เร็ว เข้าไปให้ใหญ่ สามสร้างสิทธิบัตรคุ้มครอง สี่คุ้มครองสิทธิ์ดังกล่าวโดยทุกวิธีทางที่ทำได้ ห้ามุ่งกำไรสูงสุด และหกให้ของที่ลูกค้าไม่อยากปฏิเสธแต่เบื้องหลังของโครงสร้างที่ประสบความสำเร็จนั้นคือนโยบายเกี่ยวกับคนทำงานที่ชัดเจน เป็นนโยบายที่อาจารย์แฮนดี้บอกว่าทำให้ไมโครซอฟ มั่นคงแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ หลักห้าประการของบิล เกตส์ คือ หนึ่งให้หุ้น ใครทำงานดีให้หุ้น สองให้อำนาจในการตัดสินใจ สามให้แต้มการทำงานใครได้คะแนนสี่ ถือว่าเยี่ยม ใครได้คะแนนหนึ่ง ออก สี่ให้ความเสมอภาค และห้าให้ทุกคนมีอีเมล์

เจริญ สิริวัฒนภักดี
ผู้ที่รวยที่สุดในประเทศไทย  แต่ไม่เปิดเผยเท่าไรนัก
เป็นผู้ที่เรียนจบเพียงชั้น ป.4
 

เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับ 194 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทย (อันดับ 2 นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง และอันดับ 3 นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์) จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ นายเจริญสร้างธุรกิจเบียร์ช้างได้ด้วยตนเอง โดยบิดาเป็นพ่อค้าขายหอยทอดในกรุงเทพมหานคร แต่ในปัจจุบันได้เป็นเศรษฐีของเมืองไทยในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีธุรกิจแตกแขนงไปมากมาย อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า สนามกอล์ฟเลควิว โดยในปี พ.ศ. 2548 ได้มีโครงการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ และเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของกิจการ โรงแรม พลาซ่า แอททินี่ ในกรุงเทพมหานคร และในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

จบการศึกษาจากโรงเรียนเผยอิง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สมรสแล้วกับ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี มีบุตร 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คนชื่อ อาทินันท์ วัลลภา ฐาปน ฐาปนี และ ปณต (ข้อมูล พ.ศ. 2548)

เนื้อหา

[ซ่อน]

ช่วงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสุรา

เจ้าสัวเข้าสู่วงการธุรกิจสุราด้วยการชวนของเถลิง เหล่าจินดา แห่งกลุ่มสุราทิพย์ ผู้ซึ่งต่อมาเป็นปรปักษ์กับตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มายาว นาน ในปี 2525 เมื่อเถลิงผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชน ก็เหนื่อยล้าลาจากวงการไป เจริญก็เข้าสวมแทนและสามารถเอาชนะกลุ่มเตชะไพบูลย์ โดยเข้ายึดครองกลุ่มสุรามหาราษฎร อย่างสิ้นเชิงในปี 2530 ในขณะเดียวกันนั้น พ่อตาของคุณเจริญ ก็เข้ายึดกิจการบริษัทเงินหลักทรัพย์จากตระกูลเตชะไพบูลย์อีกสายหนึ่ง ต่อมาเมื่อเตชะไพบูลย์สายนั้น (คำรณ เตชะไพบูลย์) มีปัญหาในการบริหารธนาคารมหานคร เจริญและพ่อตา ซึ่ง มีสองขาทางธุรกิจที่หนุนเนื่องกัน (ธุรกิจสุราและการเงิน) และกำลังเริ่มยิ่งใหญ่ในปี 2530 ก็เข้ายึดครองกิจการ การเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไว้ ทั้งๆ ที่ธุรกิจการธนาคารสำหรับ สังคมไทย ถูกปิดตายสำหรับคนนอกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จากจุดนี้จึงถือว่า เจริญ สิริวัฒนภักดี สร้างอาณาจักรที่มั่นคงและโหมโรงการขยายตัวอย่างเชี่ยวกรากในเวลาจากนั้นมาขยายสู่ธุรกิจเบียร์

ก่อนที่จะมาเป็นคนรวยที่สุดของประเทศไทย ท่านมีความยากจนมากแต่ท่านชอบอาชีพนักขายเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจสุราดั้งเดิม แม้ว่าระบบสัมปทานแบบเดิมกำลังจะปิดฉากลง แต่เขาก็สามารถใช้เครือข่ายการค้าแบบเดิม ซึ่งฝังรากในตลาดล่างกับเครือข่ายการค้า ในชุมชนซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายการค้าที่เข้มแข็งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในสังคมไทย ภายใต้ระบบเอเย่นต์ และระบบขายพ่วง (สุราพ่วงเบียร์ สุราพ่วงโซดา) ที่เข้มแข็งนั้นเดินหน้าธุรกิจต่อไปจากนั้นก็ต่อเนื่องเข้าสู่ธุรกิจเบียร์ (เบียร์ช้าง และเบียร์คาร์ลสเบอร์ก) ซึ่ง เสริมกับค้าสุราได้อย่างกลมกลืน ภายใต้โครงสร้างการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจนี้ นำเอาโมเดลการค้าสุรามาทำให้ความสามารถในการแข่งขันอยู่ได้ ซึ่งถือว่าเบียร์ช้าง เป็นคู่แข่งทางการตลาดของเบียร์สิงห์โดยตรง

ตำแหน่งทางธุรกิจในปัจจุบัน

ลำดับเศรษฐีของนายเจริญ

  • เศรษฐีของโลกอันดับ 194 ในปี พ.ศ. 2548
  • เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 1 ในปี พ.ศ. 2548
  • ประธานบริษัท มิลเลียไลฟ์ อินชัวรัส์ จำกัด มหาชน
 

พรหมพยากรณ์ 

Prompayakorn 2007